Offer Category: ลิสซิ่ง

ทำความรู้จักกับลิสซิ่ง ธุรกิจการเช่าเพื่อใช้ในระยะยาว

หลาย ๆ คนสงสัยว่า ลีสซิ่ง จริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ เป็นการขอสินเชื่อประเภทหนึ่งหรือเปล่า ลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไร ซึ่งสำหรับคำว่าลิสซิ่งนั้น คนมักจะได้ยินกันในส่วนของ ลิสซิ่งรถยนต์อยู่บ่อย ๆ ซึ่งเราก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับลีสซิ่งกันให้กระจ่างปราศจากข้อสงสัย ลิสซิ่งคือธุรกิจการให้เช่าทรัพย์สินอย่างหนึ่ง ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวก็คือรถยนต์ เครื่องจักร เครื่องยนต์ เครื่องมือต่าง ๆ ฯลฯ โดยที่ผู้ให้เช่าจะยังคงถือครองกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินอยู่ ส่วนผู้เช่าจะสามารถใช้โดยที่ต้องจ่ายเงินค่างวดตามที่ตกลงกัน และหลังจากสิ้นสุดสัญญา กรรมสิทธิ์อาจจะตกเป็นของผู้เช่าหรือไม่ก็ได้ ซึ่งลีสซิ่งที่เรามักจะได้พบเจอกันอย่างแพร่หลายก็คือลิสซิ่งรถยนต์ โดยที่มีทั้งธนาคารและบริษัทรถยนต์เป็นผู้ให้บริการไฟแนนซ์ลิสซิ่งด้วย

Leasing ลิสซิ่ง ภาษาญี่ปุ่น และการทำลิสซิ่งของญี่ปุ่นเป็นอย่างไร

สำหรับคำว่า Leasing ในภาษาญี่ปุ่นนั้นคือคำว่า リース ซึ่งอ่านว่า ลีส และมีความหมายตรงตัวคือ สัญญาเช่า ญี่ปุ่นเองก็มีการทำลิสซิ่งที่เหมือนกับในบ้านเรา ทั้งในส่วนของขั้นตอนต่าง ๆ และการให้เช่า แต่อาจจะมีความเคร่งครัดมากกว่าของไทยสักเล็กน้อย และที่สำคัญคือบริษัทจากญี่ปุ่นหลายแห่งก็มาจับมือกับบริษัทลิสซิ่งในไทย เพื่อให้ลูกค้าคนไทยได้เข้ามาใช้บริการทำลิสซิ่งด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น บริษัท โตเกียว เซ็นจูรี่ คอร์ปอเรชั่น ที่จับมือกับ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป เพื่อมาเปิดตัวเป็นบริษัทลิสซิ่งที่มีชื่อว่า บริษัท ทิสโก้โตเกียวลีสซิ่ง อีกด้วย

ลิสซิ่งในยุค 2024 สิ่งที่แตกต่างไปจากเดิมเมื่อเข้าสู่ยุคออนไลน์

ปัจจุบันในปี 2567 หลาย ๆ อย่างเริ่มเข้าสู่ความเป็นออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงวงการลีสซิ่งเองก็เช่นกัน บริษัทลิสซิ่งหลาย ๆ แห่งมีการปรับตัวเพื่อให้ผู้ที่ต้องการ Leasing นั้นเข้าถึงง่ายและสะดวกต่อการเช่าเพื่อลงทุนมากยิ่งขึ้นด้วย จุดเด่นของ Leasing ในยุค 2024 แบบนี้ ก็ต้องเป็นการขอสินเชื่อผ่านออนไลน์ที่สามารถขอได้ง่าย สะดวก ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว และปัจจุบันบริษัทลิสซิ่งก็จะมีข้อดีสำหรับผู้ที่ต้องการเช่าใช้/เช่าซื้อ ในเรื่องของลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรอีกด้วย จะแตกต่างกับธนาคารที่ต้องการความมั่นคงในส่วนนี้มากกว่า

ข้อแตกต่างระหว่างลิสซิ่งกับสินเชื่อเช่าซื้อ จุดที่หลายคนมักสับสน

เวลาที่คนต้องการจะซื้อรถยนต์สักคัน ก็มักจะสับสนกับคำต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟแนนซ์ลิสซิ่ง ลีสซิ่ง สินเชื่อเช่าซื้อ หลายคนมักจะไม่เข้าใจว่าแตกต่างกันอย่างไร ลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไร ลิสซิ่งใช่สินเชื่อเช่าซื้อหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้ว ลิสซิ่งกับสินเชื่อเช่าซื้อมีข้อแตกต่างกันอยู่มากมาย ลิสซิ่งคือสินเชื่อที่มีไว้เช่าเพื่อใช้งานระยะยาว แต่สินเชื่อเช่าซื้อนั้นวัตถุประสงค์คือการขอสินเชื่อเช่าซื้อเพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งเมื่อครบสัญญาการเช่าแล้ว ส่วนของ Leasing จะสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน จะเช่าต่อ หรือคืนเครื่องมือที่เช่ามา แต่ถ้าเป็นสินเชื่อเช่าซื้อ ข้อเสียคือเมื่อครบจะต้องเป็นเจ้าของทันที และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และในส่วนของการลดหย่อนภาษี Leasing จะสามารถขอลดหย่อนได้มากกว่าการขอสินเชื่อเช่าซื้อ

แนะนำธนาคารและบริษัทที่ให้บริการลิสซิ่ง มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง เลือกอย่างไรดี

ปัจจุบันมีบริษัทลิสซิ่งมากมายที่พร้อมให้บริการโดยเฉพาะลิสซิ่งรถยนต์ที่ดูเหมือนจะเป็นที่ต้องการมากที่สุดในบรรดาเครื่องไม้เครื่องมือทั้งหลาย ซึ่งธนาคารและบริษัทลิสซิ่งต่างก็มีบริการและเงื่อนไขที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร ไฟแนนซ์ลิสซิ่ง หรือเรื่องดอกเบี้ย ผลตอบแทนต่าง ๆ เริ่มจากธนาคารที่ให้บริการด้านไฟแนนซ์ลิสซิ่ง ก็จะประกอบไปด้วยธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารยูโอบี ซึ่งธนาคารเหล่านี้ก็จะมีข้อดีคือสามารถเชื่อถือได้จริง มีความแน่นอนและเงื่อนไขที่ชัดเจนในการขอสินเชื่อ แต่ก็จะมีข้อเสียในเรื่องของเครดิตบูโร อาจจะหาลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรจากธนาคารได้ยากกว่าบริษัทลิสซิ่งทั่ว ๆ ไป ในส่วนของบริษัทลิสซิ่งนั้นก็จะประกอบด้วย บริษัทลีสซิ่งไอซีบีซี บริษัทเอสลีสซิ่ง บริษัทเฮงลิสซิ่ง และบริษัทบีโอทีลีส เป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นบริษัทที่ไม่ได้มาจากธนาคารนั้น ก็จะมีหลายที่ที่มีลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร ทำให้ผู้ที่ต้องการเช่าซื้อ/เช่าใช้ สามารถขอสินเชื่อลิสซิ่งได้อย่างสะดวกรวดเร็วไม่ต้องปวดหัวกับขั้นตอนที่มากมายเกินไป และนอกจากบริษัทลิสซิ่งที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว บริษัทรถยนต์เจ้าดังหลาย ๆ แห่ง ก็มีให้บริการลิสซิ่งรถยนต์เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ทั้งหมดนี้ถึงแม้เดิมทีจะเป็นบริษัทรถยนต์อยู่แล้ว แต่ก็มีบริการลิสซิ่งรถยนต์เพื่อคนที่อยากใช้รถด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ถือเป็นผลประโยชน์กับทางบริษัทรถยนต์เหล่านั้นโดยตรง

ลิสซิ่งกับโตโยต้า ทำความรู้จักลิสซิ่งจากบริษัทรถยนต์ชื่อดัง

ตอนนี้หลายคนน่าจะเข้าใจแล้วว่าลิสซิ่งคืออะไร และพอจะรู้จักบริษัทที่ให้บริการลิสซิ่งบ้างแล้ว เราก็จะมารู้จักกับโตโยต้าลีสซิ่งไทยแลนด์ ซึ่งมีจุดเด่นคือเป็นลิสซิ่งรถยนต์โดยเฉพาะ สำหรับลิสซิ่งของโตโยต้านั้น ข้อดีที่ทางบริษัทลิสซิ่งได้นำเสนอมานั่นก็คือเรื่องของการเงิน และภาษี ซึ่งข้อดีทางด้านการเงินของการลิสซิ่งคือ ผู้เช่าจะสามารถใช้เงินไปกับการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เสี่ยงต่ออัตราดอกเบี้ยที่ผันผวนอยู่บ่อย ๆ และค่าใช้จ่ายจะคงที่ตลอดทั้งอายุสัญญา และถ้าผู้เช่าต่อสัญญาเช่าครั้งที่สอง ค่าเช่าจะมีจำนวนที่ต่ำกว่าค่าเช่ารอบแรกอย่างมีนัยสำคัญ และในส่วนของภาษีนั้นผู้ที่ทำลิสซิ่งก็จะใช้สิทธิในการขอยกเว้นเงินภาษีรายได้นิติบุคคลโดยนำค่าเช่าหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้สูงสุดถึง 36,000 บาทต่อเดือนต่อรถยนต์ 1 คัน ถือเป็นข้อดีที่น่าสนใจในช่วงปี 2024 ที่ผู้คนต่างก็อยากจะประหยัดค่าภาษีกันเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยความที่โตโยต้าเองก็ถือว่าเป็นบริษัทใหญ่ มีเครดิตที่น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก การทำลิสซิ่งกับโตโยต้าก็อาจจะมีข้อเสียสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรได้ เพราะเงื่อนไขของทางโตโยต้านั้นจำเป็นต้องมีเอกสารแสดงความยินยอมให้ตรวจสอบเครดิตบูโรด้วย

ขั้นตอนการทำลิสซิ่งผ่านช่องทางออนไลน์ เหมาะกับยุคโควิดประจำปี 2567 

ในปี 2567 ที่โควิดยังคงระบาด หลาย ๆ คนที่อยากจะทำลิสซิ่งรถยนต์นั้นก็หาทางที่จะออกจากบ้านให้น้อยที่สุด ซึ่งทางโตโยต้าเองก็มีจุดเด่นในเรื่องการทำลิสซิ่งออนไลน์ที่เหมาะกับปี 2567 โดยขั้นตอนการทำลิสซิ่งออนไลน์กับทางโตโยต้านั้นก็ไม่ยากเลย ขั้นตอนแรกคือคุณต้องโหลดแอพลิเคชั่น TLT Simply แล้วเข้าไปในแอพ และเลือกเมนู ขอสินเชื่อออนไลน์ หลังจากนั้นเลือกรุ่นรถและค่างวดที่ต้องการ กรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตน รับผลการขอสินเชื่อและยืนยันรายละเอียด และขั้นตอนสุดท้ายเลือกผู้แทนจำหน่ายและนัดวันรับรถ ถือเป็นขั้นตอนที่สะดวก และง่ายมาก ๆ เหมาะกับปี 2024 ที่ทุกอย่างเริ่มกลายเป็นออนไลน์

รู้ไว้ก่อนทำลิสซิ่งไม่เสียหาย สถิติยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อประเภทยานยนต์

นอกจากคุณจำเป็นจะต้องเข้าใจว่าลิสซิ่งคืออะไร และลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไร อีกเรื่องที่คุณควรจะทำความรู้จักและเข้าใจก่อนที่จะเริ่มทำลิสซิ่งหรือมองหายานยนต์ใด ๆ เพื่อลงทุนในอนาคต คือเรื่องของสถิติยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อประเภทยานยนต์ ในปี 2024 นี้ถึงแม้ว่าผู้คนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันเป็นปกติแล้ว แต่โควิดระลอกใหม่ก็พร้อมเกิดขึ้นเสมอ และเมื่อวิกฤตโควิดกลับมา ก็ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำกันทั่วทั้งประเทศ รวมไปถึงธุรกิจลิสซิ่งเองก็เช่นกัน ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมานั้น มีสถิติยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อประเภททะเบียนยานยนต์มากถึง 16,965 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่สูงมาก และในปี 2019 ที่เป็นช่วงโควิดระบาดครั้งแรก ก็มีสถิติยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อประเภททะเบียนยานยนต์สูงถึง 21,479 ล้านบาทเลยทีเดียว ดังนั้นในปี 2024 นี้การจะตัดสินใจเช่าใช้รถยนต์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ผ่านการทำลิสซิ่ง คุณเองก็จำเป็นจะต้องไตร่ตรองพิจารณาเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของเงินลงทุน เงินจ่ายค่าลิสซิ่งในแต่ละงวด และกำไรที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อให้การลงทุนของคุณนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดและไม่เป็นภาระแก่ตัวเองในอนาคต และเกิดข้อดีมากกว่าข้อเสียด้วย

บริษัทให้บริการลิสซิ่งหุ้นพุ่งสูง บ่งบอกถึงจำนวนผู้ใช้บริการจำนวนมาก

ถึงแม้สถิติยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อประเภทยานยนต์จะสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลเสียต่อบริษัทลิสซิ่งแต่อย่างใด เพราะจากผลสำรวจในปี 2567 นี้ มีการคาดการณ์ว่าบริษัทลิสซิ่งจะเติบโตพุ่งสูงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทเงินติดล้อ บริษัทราชธานีลิสซิ่ง และบริษัทเมืองไทย แคปปิตอล ซึ่งทั้งสี่บริษัทลิสซิ่งนี้มีกำไรที่เติบโตมาจากการขอสินเชื่อมากถึง 20% ขึ้นไปแทบจะทุกบริษัทเลยทีเดียว จึงทำให้เกิดการจับตามองว่าทั้งสี่บริษัทนี้จะสามารถเติบโตพุ่งสูงได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จากการทำธุรกิจลิสซิ่ง และยิ่งในยุคโควิดแบบนี้ที่ใคร ๆ ก็ไม่ค่อยอยากจะควักเงินก้อนจ่ายทีเดียวสักเท่าไหร่ การทำลิสซิ่งที่มีผลดีหลาย ๆ อย่างทั้งจุดเด่นในเรื่องของค่างวดที่สม่ำเสมอและภาษีที่ลดหย่อนได้มากเป็นพิเศษ บริษัทลิสซิ่งจึงกลายมาเป็นที่พึ่งของใครหลาย ๆ คนในอันดับแรก ๆ นั่นเอง

ข้อดีของลิสซิ่งสาขาเล็ก ๆ ในประเทศไทย การขอสินเชื่อที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากจะมีบริษัทลิสซิ่งที่เปิดให้คนไทยทั้งประเทศสามารถขอสินเชื่อได้แล้ว ก็ยังมีบริษัทลิสซิ่งบริษัทเล็ก ๆ ที่เปิดให้บริการขอสินเชื่อเฉพาะบางจังหวัดด้วย ซึ่งนั่นก็คือบริษัท ชูเกียรติลิสซิ่ง ที่เปิดให้บริการลิสซิ่งเฉพาะกลุ่มคนใต้ 11 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต หาดใหญ่ สตูล พัทลุง นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยบริษัทชูเกียรติลิสซิ่งนั้นก็มีบริการทำลิสซิ่งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ และสินเชื่อที่ดิน และจุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือเรื่องของเอกสารที่น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คนคือลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร เตรียมไปแค่เอกสารหลัก ๆ อย่างบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เล่มทะเบียนหรือโฉนดที่ดินตามประเภทสินเชื่อที่ยื่นกู้ หากคนนอกพื้นที่ 11 จังหวัดอยากจะทำลิสซิ่งกับทางบริษัทชูเกียรติลิสซิ่งนั้น ก็สามารถทำได้ แต่ทางบริษัทมีเงื่อนไขว่าต้องหาคนค้ำประกัน 1 คนที่เป็นคนในพื้นที่ 11 จังหวัดดังกล่าวด้วย ถือเป็นการขอสินเชื่อที่ค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ต้องการความง่าย สะดวก ไม่ต้องเตรียมเอกสารเยอะ และที่สำคัญคือดอกเบี้ยถูก เริ่มต้นเพียงแค่ 0.75% เท่านั้น

เผยข้อสงสัยเรื่องลิสซิ่ง เครดิตบูโร ดีหรือไม่ดี ทำไมคนไม่ค่อยอยากให้เช็ค

นอกจากเรื่องความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับลิสซิ่ง รวมไปถึงเรื่องของลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไรแล้วนั้น หลาย ๆ คนก็อาจจะเริ่มอยากรู้ว่าเครดิตบูโรมันคืออะไร ทำไมคนที่คิดจะทำลิสซิ่งถึงตามหาบริษัทลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโรกันเป็นจำนวนมาก สำหรับเครดิตบูโรนั้นก็มักจะเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ที่ต้องการเอกสารแสดงความยินยอมให้ตรวจสอบเครดิตบูโร เนื่องจากต้องการตรวจสอบเครดิตของผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อ เพื่อนำไปตัดสินใจว่าจะอนุมัติให้ผ่านหรือไม่ ซึ่งเครดิตบูโรจะถูกจัดทำโดยบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภทของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ข้อมูลในส่วนนี้จะสามารถบอกได้ทั้งหมดว่าใครถือบัญชีสินเชื่ออยู่บ้าง และประวัติการชำระ ประวัติการขอสินเชื่อที่ผ่านมานั้นเป็นอย่างไรบ้าง ชำระตรงเวลาหรือไม่ ชำระหรือยัง หรือไม่เคยมีหนี้ค้างชำระเลย ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ บริษัทลิสซิ่งใหญ่ ๆ ที่ให้บริการลิสซิ่งมักจะต้องการเพื่อนำไปประเมินความเสี่ยงว่าผู้ขอสินเชื่อนั้นมีแนวโน้มในการเบี้ยวหนี้หรือไม่ มีเครดิตที่น่าเชื่อถือพอที่จะให้ทำลิสซิ่งหรือไม่นั่นเอง หลาย ๆ คนจึงไม่ค่อยอยากขอสินเชื่อกับบริษัทลิสซิ่งที่ขอเอกสารเรื่องเครดิตบูโรมากนัก เพราะกลัวว่าจะไม่ผ่านเมื่อถูกตรวจสอบประวัติ และไม่มั่นใจว่าจะขอแล้วผ่าน 100% ซึ่งก็อาจจะทำให้เสียเวลาในการขอสินเชื่อได้

สรุปสารพัดเรื่องลิสซิ่ง ดีหรือไม่ ควรขอหรือไม่ควรขอ ข้อควรระวังต่าง ๆ

โดยสรุปแล้วลิสซิ่งนั้นไม่ใช่การขอกู้ยืมเงินไปลงทุนเฉย ๆ แต่เป็นการขอเช่าใช้/เช่าซื้อ โดยเป็นการขอเช่าเครื่องมือทั้งหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราเห็นคือลิสซิ่งรถยนต์ เมื่อชำระค่างวดจนครบตามสัญญาแล้วก็สามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อเป็นของตนเองเลยหรือจะเช่าต่อไปโดยจ่ายค่าเช่าที่ถูกลง เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการเช่าเพื่อไปลงทุนทำธุรกิจต่าง ๆ และต้องการประหยัดต้นทุน ซึ่งข้อดีนั้นก็มีทั้งเรื่องของค่างวดที่สม่ำเสมอไม่ขึ้นไม่ลงไปมากกว่าตอนแรกที่ตกลงกัน และการลดหย่อนภาษีที่สามารถทำได้มากกว่าการซื้อรถแบบทั่ว ๆ ไป แต่ความยุ่งยากคือเรื่องของเครดิตบูโรที่หลาย ๆ คนต่างก็หาลิสซิ่งไม่เช็คเครดิตบูโร เพื่อให้การขอสินเชื่อนั้นผ่านไปได้ด้วยดี แต่นั่นก็จะตามมาด้วยดอกเบี้ยที่สูงกว่าบริษัทใหญ่ ๆ ที่ขอเอกสารแสดงความยินยอมให้ตรวจสอบเครดิตบูโรด้วยเช่นกัน สรุปแล้วเรื่องลิสซิ่งนั้น จะขอสินเชื่อหรือไม่ ก็ควรพิจารณาถึงจุดประสงค์ในการเช่าซื้อ/เช่าใช้เครื่องมือชิ้นนั้น ๆ เสียก่อน หากพิจารณาแล้วว่าคืนกำไรให้ได้แน่นอน ก็ควรใช้บริการลิสซิ่งเพื่อการเงินที่ดีกว่า