เฟสบุ๊ค
ตรวจสอบข้อมูลบริการที่คุณต้องการพร้อมลงทะเบียนเพื่อเข้าถึงบริการนั้นๆ
คนส่วนใหญ่มักจะสับสนระหว่างบัตรเครดิตกับบัตรเดบิต คิดว่าเป็นบัตรแบบเดียวกัน ความจริงแล้วไม่ใช่แบบที่ทุกคนคิดเลย ซึ่งเราก็จะพาทุกคนไปรู้จักกับบัตรเดบิตกันให้ครบถ้วนและกระจ่างถึงการใช้งานที่แตกต่างกันระหว่างบัตรทั้งสองประเภทนี้ บัตรเดบิตคือบัตรที่จะสร้างภาระหนี้สินให้กับคุณได้แบบน้อยที่สุด เพราะว่าบัตรเดบิตคือบัตร atm ที่ทำหน้าที่ได้มากกว่าการกด atm เป็นบัตรที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของคุณ ในส่วนของการใช้งาน คุณสามารถใช้งานบัตรเดบิตได้แบบบัตร atm แต่จะมีฟังก์ชั่นพิเศษที่เพิ่มขึ้นมานั่นก็คือเรื่องของการใช้รูดจ่ายสินค้าตามร้านค้า และสามารถซื้อสินค้าออนไลน์โดยจ่ายผ่านบัตรเดบิตได้ ซึ่งยอดเงินก็จะถูกหักไปจากบัญชีเงินฝากของคุณนั่นเอง
ก่อนที่คุณจะสมัครบัตรเดบิตเพราะคิดว่าบัตรเครดิตกับบัตรเดบิตเหมือนกัน คุณจำเป็นที่จะต้องไขข้อเข้าใจผิดทั้งหลายที่คุณมีต่อบัตรเดบิตก่อน ข้อแรกคือหลาย ๆ คนมักจะสงสัยว่าบัตรเดบิตกดเงินสดได้ไหม ก็ต้องบอกเลยว่าบัตรเดบิตคือบัตร atm ที่มีฟังก์ชั่นในการจับจ่ายใช้สอยผ่านออนไลน์ได้มากขึ้น สามารถกดเงินมาใช้ได้ตามใจชอบ หรือจะตัดบัตรเดบิตออนไลน์ก็ได้ แต่ก็อย่าลืมตั้งวงเงินสูงสุดที่คุณจะใช้จ่ายต่อวันไว้ด้วย และข้อถัดมาคนมักจะสงสัยกันว่า สรุปแล้วบัตรเดบิตสามารถผ่อนของได้ไหม ถ้าเป็นเมื่อก่อน บัตรเดบิตนั้นจะเป็นที่รู้กันว่าไม่สามารถผ่อนชำระสินค้าได้เลยแม้แต่ธนาคารเดียว จะมีไว้รูดจ่ายทีเดียวแล้วตัดเงินจากบัญชีไปเท่านั้น แต่ในปัจจุบันก็มีบัตรเดบิตจากธนาคารบางแห่งที่สามารถทำการผ่อนชำระรายเดือนได้ แถมยังดอกเบี้ย 0% อีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าบัตรเดบิตผ่อนของได้ไหม ก็บอกเลยว่าปัจจุบันสามารถทำได้ แต่ต้องอ่านเงื่อนไขของบัตรเดบิตแต่ละประเภทจากแต่ละธนาคารให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหลังจากสมัครบัตรไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากประเทศไทยจะมีบัตรเดบิตแล้ว ต่างประเทศเองก็มีบัตรเดบิตแบบเรา ๆ เช่นกัน ซึ่งเงื่อนไขการใช้งานก็จะคล้าย ๆ กันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งวันนี้เราก็จะไปส่องดูบัตรเดบิตจากประเทศจีนกันว่าการใช้งานจะเป็นอย่างไรบ้าง ต่างจากของไทยมากน้อยแค่ไหน สำหรับภาษาจีนนั้นคำว่าบัตรเดบิตคือ 借记卡 (Jiè jì kǎ) บัตรเดบิตของจีนนั้นก็มีบัตรที่คนไทยสามารถทำได้ และเป็นบัตรที่มีสองสกุลเงินในใบเดียว นั่นก็คือสกุลเงินบาทและสกุลเงินหยวน เป็นบัตรเดบิตจากธนาคารแห่งประเทศจีน ซึ่งก็จะมีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวหรือซื้อของจากประเทศจีน เพราะไม่มีค่าความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในการถอนเงินสดหรือใช้จ่ายในสกุลเงินหยวน แถมยังสะดวกกับเครือข่าย UnionPay ที่ครอบคลุมในประเทศจีนอีกด้วย
ทุกธนาคารต่างก็มีบริการสมัครบัตรเดบิต ซึ่งแต่ละธนาคารนั้นก็มีฟังก์ชั่นและสิทธิประโยชน์ของบัตรเดบิตที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราก็จะยกตัวอย่างประเภทบัตรเดบิตจากธนาคารกสิกรไทย หากคุณต้องการจะสมัครบัตรเดบิตกับกสิกร คุณก็สามารถทำบัตรเดบิตออนไลน์ได้เพียงแค่คุณมีแอพ K-Plus และมีบัญชีของกสิกรอยู่แล้ว โดยบัตรเดบิตที่พิเศษ ๆ จากกสิกรนั้นก็จะมีทั้งสำหรับคนที่คลั่งรักตัวการ์ตูนอย่าง Snoopy บัตรเดบิต UnionPay บัตรเดบิต Line BK บัตรเดบิต Journey บัตรเดบิตแมงมุม และบัตรเดบิตประจำจังหวัด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะมีความพิเศษในแง่ของการใช้งานที่อาจจะได้สะสมแต้ม หรือส่วนลดที่มากยิ่งขึ้นตามรูปแบบการใช้งาน เช่น ถ้าเป็นบัตรเดบิต Line BK ก็จะมีสิทธิประโยชน์เรื่องของการคืนเงิน 0.5% ทุกครั้งที่ช็อปออนไลน์ และการใช้งานผ่านไลน์ที่สะดวกและง่ายดายมาก ๆ ซึ่งเราก็จะไปขยายถึงสิทธิประโยชน์และความพิเศษของบัตรเดบิต Line BK จากธนาคารกสิกรไทยกันต่อ
ก่อนจะไปรู้จักกับประเภทของบัตรเดบิต Line BK นั้นหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า Line BK คืออะไร Line BK คือบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ที่คุณจะสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ผ่านทางแอพลิเคชั่น Line ซึ่งเป็นแอพลิเคชั่นที่ทุกคนต่างก็ใช้งานกันอยู่แล้ว Line BK เป็นการจับมือกันระหว่างธนาคารกสิกรไทยและ Line และมีบริการทางการเงินต่าง ๆ ตามมามากมาย หนึ่งในนั้นก็คือบริการบัตรเดบิต ซึ่งบัตรเดบิตจาก Line BK นั้นก็มีทั้งหมดสามแบบด้วยกัน แบบแรกคือบัตรเดบิตออนไลน์ ไม่มีค่าธรรมเนียมในการออกบัตร สามารถสมัครผ่านออนไลน์ได้ทันที ไม่มีค่าใช้จ่าย บัตรเดบิตออนไลน์ของ Line BK นั้นก็จะมีสิทธิพิเศษในเรื่องของการรับเงินคืน 0.5% ทุกครั้งที่ใช้จ่ายออนไลน์ และสามารถจัดการบัตรได้ผ่านแอพลิเคชั่น Line แต่ข้อเสียก็คือฟังก์ชั่นพิเศษอื่น ๆ จะยังไม่สามารถทำได้แบบบัตรเดบิตอีกสองประเภทที่เหลือ สำหรับบัตรเดบิต Line BK ประเภทถัดมานั้นสามารถพูดได้ว่า บัตรเดบิตคือบัตร atm เพราะเป็นบัตรเดบิตธรรมดาที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบบัตร atm แต่ก็จะมีข้อดีตรงที่ว่าได้รับเงินคืน 0.5% ทุกครั้งที่ใช้จ่ายออนไลน์ และยังได้สิทธิประโยชน์แบบบัตรเดบิตของกสิกรไทยทุกประการ และความพิเศษอีกอย่างของบัตรเดบิตจาก Line BK นี้ก็คือ ถ้าคุณเป็นแฟนคลับตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ จาก Line คุณก็สามารถเลือกหน้าบัตรได้ตามใจชอบ และบัตรเดบิตประเภทสุดท้ายของ Line BK ก็คือ บัตรเดบิตคู่วงเงิน อย่างที่ทราบกันว่าบัตรเดบิตคือบัตร atm ที่คุณมีเงินเท่าไหนก็ใช้ได้เท่านั้น แต่สำหรับบัตรเดบิตคู่วงเงินนั้นจะมีความพิเศษตรงที่คุณจะสามารถเข้าถึงวงเงินในการให้ยืมได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้การจับจ่ายใช้สอยมีความสะดวกคูณสอง ถ้าหากคุณรู้สึกว่าบัตรเดบิตจาก Line BK ตอบโจทย์คุณ และคุณเองก็มีบัญชีเงินฝากของ Line BK อยู่แล้ว คุณก็สามารถสมัครบัตรเดบิตได้อย่างง่ายดายตามความต้องการของคุณ
บัตรเดบิตคือสิ่งที่ลดการสร้างภาระหนี้สินให้คุณได้เป็นอย่างดี เพราะส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่เป็นบัตรเดบิตประเภทที่ให้คุณได้ใช้งานตามจำนวนเงินที่คุณมี ถึงแม้จะมีบัตรเดบิตบางส่วนที่สามารถทำการผ่อนชำระได้ แต่ก็ยังมีเส้นแบ่งระหว่างบัตรเครดิตกับบัตรเดบิตที่ค่อนข้างชัดเจนอยู่ดี แม้ว่าบัตรเดบิตคือสิ่งที่ทำให้คุณได้ใช้เงินจับจ่ายใช้สอยได้ตามกำลังทรัพย์ที่คุณมี แต่ก็ใช่ว่าบัตรเดบิตจะไม่มีเรื่องที่คุณจะต้องคอยใส่ใจและไม่ควรละเลยอยู่ คุณอาจจะลืมนึกไปว่าแม้แต่บัตรเดบิตเองก็มีวันหมดอายุบัตรเดบิตเช่นกัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าบัตรเดบิตหมดอายุ
หลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่ทราบถึงสิ่งที่จะตามมาสักเท่าไหร่ บัตรเครดิตกับบัตรเดบิตต่างก็มีวันหมดอายุด้วยกันทั้งหมด แต่คนส่วนใหญ่ก็มักจะใช้เพลินจนลืมดูว่าบัตรเดบิตหมดอายุหรือว่าใกล้ถึงช่วงหมดอายุแล้วหรือยัง แล้วถ้าวันหมดอายุบัตรเดบิตมาถึงแล้วจะทำอย่างไรต่อไปดี หลังจากที่บัตรเดบิตหมดอายุ ทางธนาคารจะไม่ทำการเก็บค่าธรรมเนียมรายปีจากคุณแล้ว และบัตรก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ซึ่งถ้าคุณต้องการใช้งานบัตรต่อ คุณจะต้องทำเรื่องขอออกบัตรทดแทนก่อนบัตรเก่าหมดอายุ 1 เดือน หรือภายในเดือนที่บัตรเดิมหมดอายุ หรือถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนธนาคารที่ใช้บัตรเดบิตอยู่แล้ว คุณก็ปล่อยให้บัตรเดบิตหมดอายุไปโดยที่ไม่ต้องต่อเลยก็ได้ แต่ในช่วงเวลาที่วันหมดอายุบัตรเดบิตมาถึงแล้วคุณไม่รู้ตัว นั่นก็อาจจะทำให้คุณใช้ชีวิตลำบากกับการฝากถอนเงินหรือใช้จ่ายออนไลน์ไปสักพักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว ดังนั้นเรื่องวันหมดอายุบัตรเดบิตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้ามไปโดยเด็ดขาด
เรียกได้ว่าทุกวันนี้คนหันมาใช้บัตรเดบิตแทนบัตร atm กันแทบจะหมดแล้ว เนื่องด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลายกว่า สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกและ Contactless เหมาะกับยุคโควิดแบบนี้ ซึ่งในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 – มกราคม 2567 ที่ผ่านมานั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้รวบรวมสถิติปริมาณการใช้งานบัตรพลาสติกเพื่อการชำระเงินเอาไว้ด้วย โดยในระยะเวลา 6 เดือนที่สถิติเหล่านั้นถูกสะสมไป จะเห็นว่ามีผู้ใช้บัตร atm ทั่ว ๆ ไปอยู่ที่หลักหมื่นรายการ และในบางเดือนก็ไม่ถึงหมื่นรายการ ถัดมาคือบัตรเครดิตที่ถูกใช้ไปโดยเฉลี่ยเดือนละประมาณ 60,000 – 70,000 รายการด้วยกัน และที่มาแรงที่สุดคือบัตรเดบิตที่ถูกใช้เฉลี่ยเดือนละ 140,000 – 150,000 รายการ เนื่องด้วยบัตรเดบิตนั้นทำหน้าที่ได้เหมือนกับบัตร atm แต่ก็รูดจ่ายได้แบบบัตรเครดิต เพียงแต่ไม่ได้เป็นการรูดเพื่อใช้เงินล่วงหน้าเท่านั้นเอง
ปัญหาถัดมาของการทำบัตรเดบิตที่หลาย ๆ คนโอดครวญก็คือเรื่องของค่าทำบัตรครั้งแรก รวมไปถึงค่าธรรมเนียมรายปีที่มาถึงทีไรหลาย ๆ คนก็เซ็งและไม่อยากจะจ่ายทุกที ซึ่งจริง ๆ แล้วบัตรเครดิตกับบัตรเดบิตต่างก็มีค่าธรรมเนียมรายปีกันทั้งนั้น กว่าจะถึงช่วงเวลาที่ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก็คงต้องรอบัตรเดบิตหมดอายุ ซึ่งนั่นก็ลำบากในส่วนของการใช้งานอย่างต่อเนื่องอีก เรื่องนี้ก็ถือเป็นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทางธนาคารพยายามจะแก้ไขและเอาใจผู้ใช้งานอยู่เช่นกัน โดยเราจะเปรียบเทียบเฉพาะส่วนของค่าธรรมเนียมเท่านั้น จะไม่ยกเรื่องของบัตรเดบิตกดเงินสดได้ไหม และผ่อนของได้ไหมเข้ามาเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย สำหรับบัตรเดบิตที่โดดเด่นในเรื่องนี้ก็คือบัตรเดบิตประเภท No Annual Fee จากธนาคารกรุงศรีนั่นเอง ไม่เสียทั้งค่าทำบัตรครั้งแรก และค่าธรรมเนียมรายปีด้วย
ถ้าคุณยังสับสนอยู่ว่าควรจะสมัครบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตดี ยังไม่รู้ว่าอะไรจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากกว่ากัน ก่อนอื่นคงต้องแบ่งจุดประสงค์ของคุณให้ชัดเจนก่อนว่าคุณต้องการอะไร หากคุณต้องการใช้เงินสด อยากรู้ว่าบัตรเดบิตกดเงินสดได้ไหม แล้วบัตรเครดิตกดเงินสดได้ไหม ก็ต้องบอกเลยว่าทั้งสองบัตรสามารถกดเงินสดออกมาใช้ได้ทั้งคู่ เพราะฉะนั้นโจทย์เรื่องบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตกดเงินสดได้ไหม ก็ผ่านไปได้เลยเพราะสามารถทำได้ทั้งคู่ ข้อถัดมาคือผ่อนของได้ไหม นี่คือสิ่งที่คนมักจะถามกัน หากนี่คือจุดประสงค์ของคุณ บัตรเดบิตก็อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ เพราะบัตรเดบิตส่วนใหญ่ยังไม่มีบริการให้ผ่อนชำระได้ แต่บัตรเครดิตอาจจะตอบโจทย์คุณมากกว่า
ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่อยากจะใช้ชีวิตแบบไร้หนี้สินทั้งหมดทั้งปวง บัตรเดบิตนี่แหละคือสิ่งที่ตอบโจทย์ความสะดวกของคุณครบทุกด้าน สามารถตัดบัตรจ่ายออนไลน์ได้ รูดจ่ายกับเครื่องที่รับบัตรก็ได้ กดเงินสดก็ได้ บัตรเดบิตจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณช็อปปิ้งออนไลน์ได้สะดวก แต่ก็ไม่ทำให้คุณฟุ่มเฟือยจนเกิดหนี้ที่พ่วงมาจนเป็นดินพอกหางหมู เพราะถ้าเงินคุณหมด บัตรเดบิตก็จะทำให้คุณไม่สามารถใช้จ่ายตามใจชอบได้แล้ว ถึงแม้จะดูเป็นข้อเสีย แต่นั่นก็ดีสำหรับคนที่อยากจะตัดกิเลศและไม่อยากสร้างหนี้ให้ตัวเองเป็นอย่างดี
ถ้าตอนนี้คุณกำลังมีหนี้สินจากบัตรเครดิต และอยากจะหันมาใช้บัตรเดบิตแทน ก็เริ่มต้นทำได้ตั้งแต่วันนี้เลย เพราะบัตรเดบิตออนไลน์ก็สามารถทำได้แล้ว และไม่ยุ่งยากแบบที่คิด เมื่อคุณเริ่มเปลี่ยนจากการใช้บัตรเครดิตรูดเอาเงินในอนาคตมาจ่าย เป็นบัตรเดบิตที่ใช้แค่เงินที่คุณหามาได้แทน คุณก็จะเริ่มรอบคอบในการวางแผนใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้มากขึ้น แล้วชีวิตการเงินของคุณก็จะสนุกและราบรื่นมากยิ่งขึ้นเมื่อมีบัตรเดบิตไว้ในครอบครอง